ธุรกิจร้านเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญกำลังได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน โดยธุรกิจดังกล่าวหากตั้งอยู่ในทำเลที่เหมาะสม ก็จะสามารถคืนทุนให้กับเจ้าของกิจการได้ภายในระยะเวลา 1 – 2 ปี อย่างไรก็ตาม ก่อนไปถึงจุดนั้น ผู้ที่สนใจธุรกิจร้านเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ จำเป็นต้องทราบเบื้องต้นก่อนว่า ธุรกิจดังกล่าวมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ซึ่งในบทความชิ้นนี้ เรามีรายละเอียดที่น่าสนใจมาฝากกัน ถ้าพร้อมแล้ว ไปติดตามอ่านกันได้เลย
สารบัญ
Toggle1. ค่าเช่าที่
ทำเลที่ตั้งของร้านเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญเป็นสิ่งสำคัญลำดับแรก สำหรับการเริ่มดำเนินธุรกิจ โดยเราแนะนำว่าควรเป็นทำเลที่ตั้งใกล้กับชุมชน โรงงาน โรงแรม ตลาด รวมถึงหอพักจะดีที่สุด เพราะมีผู้คนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้นโอกาสที่จะมีผู้มาใช้บริการก็มากขึ้นตามไปด้วย อย่างไรก็ตามบริเวณทำเลดังกล่าว อาจมีค่าเช่าที่ค่อนข้างแพง แต่ในทางกลับกันก็จะสามารถคืนทุนให้กับเจ้าของธุรกิจได้เร็วขึ้นเช่นกัน
2. ค่าเครื่องซักผ้า
เครื่องซักผ้าที่เหมาะสำหรับธุรกิจร้านเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญควรเป็นเครื่องซักผ้าอุตสาหกรรม ซึ่งมีขนาดความจุตั้งแต่ 10 กิโลกรัมขึ้นไป ราคา 20,000 – 25,000 บาท เพราะสามารถซักต่อเนื่อง เหมาะกับการทำงานเกือบ 24 ชั่วโมง และยังซักผ้าชิ้นใหญ่อย่าง ผ้านวม ผ้าห่ม รวมถึงชุดเครื่องนอนไซส์ใหญ่ 6 ฟุตได้มีประสิทธิภาพ อีกทั้งเครื่องซักผ้าขนาดดังกล่าวยังมีความแข็งแรงเป็นพิเศษ จึงใช้งานได้ยาวนานและคุ้มค่ากับการลงทุนร้านเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ
นอกจากนี้ เราควรพิจารณาเลือกซื้อเครื่องซักผ้าที่มาพร้อมกับบริการหลังการขายที่มีความน่าเชื่อ เพื่อให้การซ่อมแซมบำรุงรักษาทำได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลให้ธุรกิจร้านเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญของเราสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่น
3. ค่าตู้หยอดเหรียญ
ตู้หยอดเหรียญถือเป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับการทำธุรกิจร้านเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญที่ขาดไม่ได้ โดยราคาตู้หยอดเหรียญอยู่ที่ประมาณ 2,000 – 2,500 บาทขึ้นไป / เครื่อง ซึ่งจะสามารถรับเหรียญ 5 และเหรียญ 10 นอกจากนี้ เราควรเลือกยี่ห้อตู้หยอดเหรียญที่มีระบบรักษาความปลอดภัยรอบด้าน มีความแข็งแรง ทนทาน ป้องกันการงัดแงะจากมิจฉาชีพได้ทุกรูปแบบจะดีที่สุด
4. ค่าติดตั้งระบบน้ำ/ไฟ และค่าซ่อมบำรุง
เราควรเลือกบริษัทติดตั้งระบบน้ำและไฟที่อยู่ใกล้กับร้านเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญของเราจะดีที่สุด เผื่อเกิดเหตุการณ์ขัดข้องจะได้แจ้งช่างเข้ามาแก้ไขได้ทันท่วงที นอกจากนี้ ในช่วง 3 เดือนแรก เราควรกันเงินสำหรับค่าน้ำค่าไฟเอาไว้ส่วนหนึ่ง เพราะเป็นช่วงที่ร้านเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญยังมีลูกค้าไม่เยอะ ซึ่งจะช่วยป้องกันความเสี่ยงจากธุรกิจสะดุดที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
อีกทั้งเจ้าของร้านเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญควรเตรียมเงินในส่วนของค่าซ่อมบำรุงต่าง ๆ เอาไว้ด้วย เพราะเครื่องซักผ้ามีการใช้งานอยู่ตลอดแทบจะ 24 ชั่วโมง จึงจำเป็นที่จะต้องตรวจเช็กสภาพของอุปกรณ์อย่างน้อยเดือนละหนึ่งครั้ง
5. ค่าอินเทอร์เน็ต และค่ากล้องวงจรปิด
กล้องวงจรปิดสำหรับร้านเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญจะทำงานไม่ได้หากไม่มีการติดตั้งอินเทอร์เน็ตภายในร้าน โดยค่าใช้จ่ายสองส่วนนี้มีส่วนช่วยในเรื่องของความปลอดภัย ซึ่งเจ้าของร้านเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญสามารถตรวจเช็กความเรียบร้อยภายในร้านได้ตลอดเวลา ในขณะเดียวกันการมีอินเทอร์เน็ต หรือไวไฟ ไว้สำหรับบริการลูกค้าที่นำผ้ามาซัก ก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในยุคนี้
อีกทั้งเจ้าของร้านเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญควรเตรียมเงินในส่วนของค่าซ่อมบำรุงต่าง ๆ เอาไว้ด้วย เพราะเครื่องซักผ้ามีการใช้งานอยู่ตลอดแทบจะ 24 ชั่วโมง จึงจำเป็นที่จะต้องตรวจเช็กสภาพของอุปกรณ์อย่างน้อยเดือนละหนึ่งครั้ง
สรุป
การเริ่มธุรกิจร้านเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญจะมีค่าใช้จ่ายหลัก ๆ 5 อย่างด้วยกัน ได้แก่ ค่าเช่าที่ ค่าเครื่องซักผ้า ค่าตู้หยอดเหรียญ ค่าติดตั้งระบบน้ำไฟและซ่อมบำรุง รวมถึงค่าอินเทอร์เน็ตและค่ากล้องวงจรปิดที่จะต้องติดภายในร้านของเรานั่นเอง
สำหรับผู้ที่สนใจเริ่มต้นธุรกิจร้านเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ สามารถสอบถามรายละเอียดกับเราได้ที่เฟซบุ๊กและเว็บไซต์ DR.TIGER LAUNDRY หรือโทรศัพท์ติดต่อเบอร์ 082-993-5295 เพราะเราคือแฟรนไชส์ที่ลงทุนน้อย คืนทุนไว สร้างรายได้แบบเสือนอนกินอย่างแท้จริง !
อีกทั้งเจ้าของร้านเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญควรเตรียมเงินในส่วนของค่าซ่อมบำรุงต่าง ๆ เอาไว้ด้วย เพราะเครื่องซักผ้ามีการใช้งานอยู่ตลอดแทบจะ 24 ชั่วโมง จึงจำเป็นที่จะต้องตรวจเช็กสภาพของอุปกรณ์อย่างน้อยเดือนละหนึ่งครั้ง